คริสตัลในไฟหน้าของ 2023 BMW i7 โดย Swarovski นอกจากความสวยงามแล้วมีดีอย่างไร?

BMW 7 Series (บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 7) และ BMW i7 (บีเอ็มดับเบิลยู ไอ 7) เจเนอเรชั่นล่าสุด รหัสตัวถัง G70 นั้นมาพร้อมหน้าตาอันเป็นเอกลักษณ์แตกต่างจากรุ่นที่ผ่านมา ส่วนที่โดดเด่นที่สุดน่าจะเป็นไฟหน้าแบบแยกส่วน ซึ่งไฟหน้าดังกล่าวถูกพัฒนาโดย Swarovski แล้วมันมีความพิเศษอย่างไรกันนะ?

• เหมือนช่องดักอากาศในเวลากลางวัน  
• ช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ในการใช้รถ  
• ไม่ได้มีดีแค่ไฟแบบคริสตัล

เหมือนช่องดักอากาศในเวลากลางวัน

BMW ได้ออกแบบให้ไฟหน้าของ i7 เป็นแบบแยกส่วน โดยไฟส่วนบนจะประกอบด้วยคริสตัลจาก Swarovski ตลอดทั้งชิ้น ค่ายใบพัดฟ้าขาวกล่าวว่าการออกแบบไฟลักษณะนี้จะทำให้ไฟด้านบนดูเหมือนช่องอากาศในเวลากลางวัน

ในการสร้างไฟหน้าลักษณะนี้ไม่ได้ง่าย เพราะความจริงแล้ว Swarovski ต้องพัฒนาอุปกรณ์ที่ทำให้ตัวคริสตัลลอยอยู่และสามารถคงทนจนหมดอายุการใช้งานของรถ

ช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ในการใช้รถ

ไฟหน้าแบบคริสตัลจะช่วยให้ทาง BMW นำไปใช้พัฒนาในสิ่งที่ทางค่ายได้ให้นิยามว่า ‘Great Entrance Moment’ โดยเมื่อคนขับเข้าใกล้รถ ตัวกระจังหน้าไตคู่กับไฟหน้าแบบคริสตัลจะแสดงสีแบบพิเศษออกมา

Tom Binder หัวหน้าฝ่ายออกแบบไฟภายนอกของ BMW อธิบายในแถลงการณ์ว่า “จนถึงปัจจุบัน เราจะเห็นเพียงไฟหน้าที่รวมเป็นเนื้อเดียวกันเท่านั้น แต่ไฟหน้าแบบคริสตัลเป็นสิ่งที่ต่างไปโดยสิ้นเชิง”

“แสงไฟที่ดูตระการตาซึ่งแตกต่างจากไฟแบบทั่วไป ความละเอียดของแสงจากการสะท้อนของวัสดุแก้ว ซึ่งสามารถทำได้ละเอียดและแม่นยำกว่าพลาสติกมาก”

อ่านเพิ่มเติม : ไฟหน้าแบบแยกส่วนของ 2023 BMW X7 นั้นมีที่มาอย่างไร?

i7 ไม่ได้มีดีแค่ไฟแบบคริสตัล

ไฟหน้าแบบคริสตัลของ Swarovski ไม่ใช่สิ่งที่พิเศษเพียงสิ่งเดียวของ i7 เพราะในรุ่น xDrive60 นั้นมีมอเตอร์ไฟฟ้าที่ล้อคู่หน้าที่ให้กำลัง 255 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้า 308 แรงม้าที่ด้านหลัง ซึ่งทำให้กำลังรวมของรถคันนี้มีถึง 536 แรงม้า และมีแรงบิด 744 นิวตันเมตร โดยมีแหล่งพลังงานเป็นแบตเตอรี่ขนาด 101.7 kWh ทำให้รถคันนี้สามารถขับขี่ได้ 483 กม. ต่อหนึ่งชาร์จ

อ่านเพิ่มเติม : เผยสาเหตุไฟหน้าแยกส่วน ทำไมหลายค่ายรถนิยมใช้ มีประโยชน์ตรงไหน?