BMW จะบอกชื่อรุ่นแบบใหม่ ใช้ "กระดาษอิเล็กทรอนิกส์" ที่เปลี่ยนสีได้แทนป้ายโลหะ

ในงาน Consumer Electronics Show 2022 ที่ผ่านมา BMW (บีเอ็มดับเบิลยู) ได้นำเสนอรถที่สามารถเปลี่ยนสีได้เองในปุ่มเดียว หลังจากนั้น BMW ก็ยังมีเทคโนโลยีการเปลี่ยนสีได้โดยการอ่านความคิดของเรา

ทาง Carbuzz คาดว่า เทคโนโลยีการเปลี่ยนสีของ BMW มาจากการฟิล์มแบบพิเศษ ไม่ใช่สีที่พ่นลงไป จึงได้ไปค้นพบกับสิทธิบัตรที่ยื่นต่อสำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าของเยอรมนี (DPMA) ซึ่งสิ่งนี้เรียกว่า กระดาษอิเล็กทรอนิกส์

• รุ่นย่อยของ BMW มีมหาศาล
• ป้ายบอกชื่อรุ่นไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
• เปลี่ยนชื่อรุ่นได้หลังซื้อรถ
• อาจเหมาะกับอีวี
• รูปของสิทธิบัตร

รุ่นย่อยของ BMW มีมหาศาล

อย่างที่เราทราบกันดี โลโก้หรือป้ายที่บอกชื่อรุ่นรถของเรามักจะทำด้วยพลาสติกชุบโครเมียม เพื่อระบุชื่อรุ่นที่บอกรุ่นย่อยและเครื่องยนต์ที่ใช้ เช่นใน 2022 BMW 4 Series Coupe สเปคอเมริกาที่มีทั้ง 430i, 430i xDrive, M440i, และ M440i xDrive 

ป้ายบอกชื่อรุ่นไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ในแต่ละรุ่นก็มีรุ่นย่อยที่หลากหลาย ยิ่งมีรุ่นมากเท่าไหร่ ต้นทุนสำหรับป้ายเหล่านี้ก็เพิ่มขึ้นเท่านั้น ไม่นับรวมรถรุ่นอื่นในไลน์อัพของ BMW ที่มีอย่างหลากหลายทั้งซีดาน SUV และอื่น ๆ นอกจากนี้ การผลิตพลาสติกเหล่านี้ยังไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ ในสิทธิบัตรเป็นการเสนอให้ “เปิดใช้งานฮาร์ดแวร์ที่ติดตั้งเป็นมาตรฐานแต่ยังไม่เริ่มทำงาน” ไอเดียนี้ทำให้รถทุกคันจะได้แผ่นที่เรียกว่า E Paper และแต่ละรุ่นสามารถเปิดใช้งานแถบนี้เมื่อการผลิตเสร็จสิ้น

อ่านเพิ่มเติม : BMW มุ่งผลิตล้ออะลูมิเนียมรีไซเคิลด้วยพลังงานสีเขียว

เปลี่ยนชื่อรุ่นได้หลังซื้อรถ

สิทธิบัตรยังระบุด้วยว่า “สามารถใช้ซอฟท์แวร์ที่เหมาะสมในการอัพเกรดชื่อรุ่นหลังจากที่เราซื้อรถไปแล้ว…โดยรถสามารถอัพเกรดได้ตลอดอายุขัยของรถ” ในลักษณะที่ว่า “มันสามารถกลายเป็นรถที่มีอุปกรณ์ที่สามารถเปลี่ยนเป็นรุ่นอื่นได้”

ซึ่งอาจหมายความว่าการอัพเดตแบบ over-the-air จะทำให้เราได้ฟีเจอร์บางอย่างเพิ่มเติมจากที่ซื้อรถมาตั้งแต่แรก นอกจากนี้ ยังมีแอพลิเคชั่นที่น่าสนใจในอนาคตอีกด้วย

อัพเกรดแล้วป้ายเปลี่ยนให้เลย ไม่ต้องแกะ และอาจเหมาะกับอีวี

ลองนึกภาพว่าเจ้าของรถที่มีขุมพลังเดิมที่มากับรถแล้วสามารถจ่ายเงินเพื่อการอัพเดทให้รถแรงขึ้น ซึ่งดูเหมือนว่าการทำสิ่งนี้จะไม่ได้อยู่ในยุคของเครื่องยนต์สันดาป เพราะรถบางคันต้องมีการอัพเกรดด้วยฮาร์ดแวร์ แต่การเข้ามาของอีวีทำให้เราอาจซื้อ BMW i4 ในรุ่น eDrive40 และสามารถอัพเกรดขุมพลังให้เท่ากับรุ่น M50 ได้ (แต่ลักษณะของรถยังเหมือนเดิม)

เอาป้ายออกไปเลยก็ยังได้

นอกจากนี้ สิทธิบัตรดังกล่าวยังให้เราสามารถ “ลบ” ป้ายหรือโลโก้รถของเราเพื่อลุคที่ดูมินิมอล หรืออาจจะไม่ยอมเผยพลังที่แท้จริงของรถในแบบ sleeper car ซึ่งแนวคิดในเรื่องนี้แม้จะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ก็ดูน่าสนใจเลยทีเดียว

สามารถรับชมรูปของสิทธิบัตรดังกล่าวได้ที่ด้านล่างนี้

อ่านเพิ่มเติม : เผยความต่าง 2023 BMW 7-series เทียบรุ่นเก่าปะทะโฉมใหม่ ชอบดีไซน์ตรงไหนบ้าง?