การจับมือระหว่างค่ายรถยักษ์ใหญ่ เพื่อร่วมกันพัฒนารถนั้น เริ่มเป็นนโยบายที่ได้รับความนิยมในหลายค่าย เพื่อการแชร์องค์ความรู้ร่วมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า หากต่างคนต่างพัฒนาอาจจะทำได้ไม่เร็วทันใจ จึงต้องอาศัยความรู้และเงินทุนจากค่ายอื่น ๆ มาเสริมซึ่งกันและกัน โดยล่าสุดเป็นความสัมพันธ์ระหว่าง BMW และ Ford เกิดขึ้นแล้ว
BMW (บีเอ็มดับเบิ้ลยู) และ Ford (ฟอร์ด) ทั้งคู่ต่างก็มีรถยนต์ไฟฟ้าล้วนออกขายมาแล้ว แต่ทั้งหมดนั้นใช้แบตเตอร์รี่แบบสารเคมีเหลวเหมือนทั่วไปในปัจจุบัน ที่มีข้อเสียคือการชาร์จไฟนาน และวิ่งได้ระยะไม่ไกลมาก ดังนั้นทั้งคู่จึงเห็นตรงกันว่า ควรจะเริ่มพัฒนาแบตเตอร์รี่แบบ Solid state ซึ่งแก้ปัญหาจุดนี้ได้หมดจรด
BMW และ Ford รวมเงินลงขันกันถึง 4,000 ล้านบาท เพื่อซื้อหุ้นในบริษัทสตาร์ทอัพเกี่ยวกับแบตเตอร์รี่ชื่อว่า Solid Power ซึ่งเป็นแหล่งพัฒนาแบตเตอร์รี่แบบโซลิดสเตท โดยไม่ได้บอกว่าซื้อไปกี่หุ้น แต่ก็มากพอที่จะเข้าไปร่วมกำหนดทิศทางและเป้าหมายได้ในห้องประชุม
เป้าหมายสำคัญคือ เร่งพัฒนาแบต Solid state ให้สามารถใช้กับรถจริงได้ในปี 2022 หรืออีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ โดยรถคันจริงที่งานนี้ จะเป็นรถทดสอบก่อนในระยะแรก เพื่อเก็บข้อมูล และแก้ไขข้อบกพร่อง โดยจะใช้เวลาทดสอบถึง 9 ปีเพื่อดูความทนทานในระยะยาว เพื่อความแน่ใจ ก่อนจะออกขายให้ใช้ได้ในปี 2030
การพัฒนาแบตเตอร์รี่แบบโซลิดสเตทนี้ มีค่ายรถญี่ปุ่นชิงพัฒนาไปก่อนหน้าแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Toyota ที่เริ่มทำเมื่อต้นปี 2020 มาก่อน ตามด้วยค่าย Nissan ที่ลงทุนทำเองเมื่อปลายปี 2020 และยังไม่มีปัญหารายงานออกมา จึงมีแนวโน้มจะเสร็จได้เร็ว ส่วนค่ายรถยุโรปอย่าง Volkswagen ก็เร่งพัฒนาเพื่อจะออกขายให้ได้ในปี 2025 ซึ่งใช้เวลาแค่ 4 ปีเท่านั้น
แบต Solid state นี้เป็นความหวังที่ทำให้รถวิ่งไกลขึ้น เติมพลังงานเร็วขึ้นภายใน 5-10 นาที และอาจจะมีผลพลอยได้ไปเบียดแบตรุ่นเก่ามีราคาลดลง จนจับต้องได้ง่ายไปอีกในอนาคตอันใกล้นี้
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}