ตลาดรถยนต์ครึ่งปีหลัง: เมื่อยอดหดตัวส่งผลให้การแข่งขันดุเดือดยิ่งขึ้น

ตลาดรถยนต์นั่งในประเทศไทยในปี 2563 นั้น แม้จะมีการคาดการณ์ออกมาว่าตลาดรวมน่าจะทำได้ที่ระดับ 2.251 แสนคัน หรือหดตัว 43.5% ซึ่งถือเป็นการหดตัวที่ต่อเนื่องรุนแรงกว่าในช่วงครึ่งปีแรกที่หดตัวไปแล้ว 42% ทำให้มีการคาดการณ์ว่าเหล่าผู้ประกอบการในประเทศไทยจะหมดแรงแข่งขัน ท้อแท้กันไปเสียก่อน

เพราะจริง ๆ แล้ว ตลาดรถยนต์นั่งและรถประเภทอื่น ๆ ที่ไม่ใช่รถยนต์เชิงพาณิชย์นั้น ได้รับผลกระทบจากการซบเซาของเศรษฐกิจ ที่เป็นผลต่อเนื่องมาจากการแพร่กระจายของไวรัสโคโรน่า ทำให้ตลาดในประเทศไทยและตลาดส่งออก ต่างก็ได้รับผลกระทบตามกันมาเป็นลูกโซ่ และก็ไม่แน่ใจว่าจะกลับสู่ภาวะปกติกันเมื่อใด

แต่เอาจริง ๆ แล้ว เราก็ยังเชื่อมั่นว่าค่ายรถคงไม่ยอมท้อแท้กันง่าย ๆ เพราะว่าการรักษาโมเมนตัมของตลาดเอาไว้ให้คงอยู่ถึงยามที่ตลาดกลับมาสดใสอีกครั้งเป็นเรื่องที่จำเป็นมาก ใครที่คิดจะถอดใจกันง่าย ๆ ก็อาจจะอาการหนักถึงขั้นต้องเก็บของกลับบ้านกันไปก่อน เพียงแต่การเลือกใช้และปล่อยอาวุธนั้นอาจจะต้องรัดกุมกันมากขึ้นในช่วงที่เหลือของปี

เมื่องานแสดงรถยนต์ทั้งหมดยังประกาศเดินหน้าจัดกันอีก 3 งานในปีนี้แบบไม่มีใครยอมหลบให้ใคร สถานการณ์ในประเทศก็มีตัวเลขที่ดีขึ้นอย่างชัดเจนในเดือนมิถุนายน ท่ามกลางความตึงเครียดของผู้ประกอบการทางด้านการเงินว่าจะปล่อยสินเชื่อดีหรือไม่ ถือเป็นความพยายามของผู้ขายที่ต้องเร่งเครื่องขายกันต่อไป แม้อะไร ๆ จะยังไม่เอื้ออำนวย

และแน่นอนว่าตัวแปรหลักอย่างค่ายรถทุกรายนั้น พวกเขามีความพร้อมที่จะเดินหน้าผลักดันตลาดอย่างแน่นอน ทั้งในเรื่องตัวสินค้าใหม่ที่จ่อเปิดตัวกันอีกหลายรุ่นในปีนี้ หรือแม้แต่แคมเปญ โปรโมชั่นต่าง ๆ ที่แน่นอนว่ายังจัดกันอย่างเต็มที่แบบไม่มีโอกาสให้หายใจหายคอ ซึ่งหากใครมีความต้องการและความสามารถที่จะซื้อรถในช่วงนี้ บอกเลยว่าเป็นโอกาสทองของคุณเลยนะ

ย้อนชมตลาดครึ่งปีแรก เจ็บหนักกันถ้วนหน้า

การมาถึงของไวรัสโคโรน่าในประเทศไทยในเดือนกุมภาพันธ์ และเริ่มทวีความรุนแรงในเดือนมีนาคม ส่งผลต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งเรื่องการผลิต การจำหน่ายและการจัดกิจกรรมเพื่อกระตุ้นตลาดนับตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคมเป็นอย่างมาก อย่าว่าอย่างงั้นอย่างงี้ กว่ามอเตอร์โชว์จะจัดได้นั้น ยังเกิดอาการเลื่อนแล้วเลื่อนอีก ลุ้นกันแทบตายว่าจะได้จัดไหม

ตลาดรวมทั้งหมดที่ทำไปได้ 328,604 คัน ตามการรายงานยอดจำหน่ายของโตโยต้า ที่หดตัวไป 37.3% นั้น หากไปดูในรายละเอียดการรานงานในแบบของโตโยต้า ที่มีการนำรถบาประเภทข้ามไปอยู่ในรถเชิงพาณิย์ ก็จะพบว่าแค่ส่วนของตลาดรถยนต์นั่งเพียว ๆ นั้น มีการหดตัวมากกว่าตลาดที่ 42% หรือมียอดขายรวมแค่ 119,716 คันเท่านั้น

ฮอนด้านั้นนำโด่งมาในตลาดรถยนต์นั่งตามการรายงานของโตโยต้า โดยพวกเขามียอดขายในช่วงครึ่งปีแรก 34,518 คัน หดตัวไป 29.4% อันนี้ไม่รวมยอดของ Honda CR-V ที่อยู่ในรถเชิงพาณิชย์อีก 6,808 คัน ขณะที่โตโยต้ามียอดขายไป 29,926 คัน หดตัวไป 50.4% อันนี้ก็ไนรวมยอดของ Toyota Fortuner อีก 6,643 คันเช่นเดียวกัน

ถ้าถามว่าในกลุ่มรถยนต์นั่งค่ายญี่ปุ่นนั้น ใครหดตัวน้อยที่สุด ถ้าให้ทายจะเดากันออกไหมว่าได้แก่ค่ายซูซูกิ ที่มียอดขายไป 9,783 คัน หดตัวไปเพียง 10.8% เท่านั้น เป็นผลมาจากยอดขายอันยอดเยี่ยมของ Suzuki Celerio ขณะที่ผู้ที่หดตัวมากที่สุดได้แก่ค่ายปีกบินมาสด้า ที่มียอดขายไปเพียง 10,605 คัน หรือหดตัวไป 58.9% นั่นเอง

และหากมองไปที่ค่ายรถฝั่งที่ไม่ใช่รถญี่ปุ่นกันบ้าง บีเอ็มดับเบิลยูนั้นสามารถประคองยอดขายได้ดี โดยมียอดขายไป 4,128 คัน หดตัวไป 24.6% ทำให้พวกเขาเป็นผู้นำตลาดรถยนต์หรูหราในครึ่งปีแรก โดยเอาชนะเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่มียอดขาย 3,981 คัน หดตัว 45.4% คนที่หดตัวเยอะที่สุดก็คงเป็นฮุนได ที่ในปีนี้พวกเขายังขายไม่ได้เลยแม้แต่คันเดียว

ตลาดรถยนต์นั่งครึ่งปีหลังจะเป็นอย่างไร

กลับไปดูที่รายงานของโตโยต้าอย่างต่อเนื่อง จะพบว่าโตโยต้าประเมินภาพรวมตลาดรถยนต์นั่งในปีนี้เอาไว้ที่ 225,100 คัน จากตลาดรวมที่ประเมินไว้ 6.6 แสนคัน นั่นก็หมายความว่าโตโยต้าประเมินว่าตลาดรถยนต์นั่งจะหดตัวเพิ่มเติมเป็น 43.5% เมื่อถึงสิ้นปีนี้ เมื่อเทียบกับตลาดรวมที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยเหลือหดตัว 34.5% เท่านั้น

ถ้าจะมีใครที่หนักหนากว่าตลาดก็คงจะเป็นตัวของโตโยต้าเอง ที่แม้พวกเขาจะมีสินค้าใหม่เอี่ยมอย่าง Toyota Corolla Cross ที่ผมไม่แน่ใจจริง ๆ ว่าโตโยต้านับยอดรถรุ่นนี้เป็นรถยนต์นั่งหรือรถยนต์เชิงพาณิชย์ แต่สถานการณ์ในภาพรวมนั้นคงแย่จริง เพราะโตโยต้านั้นประเมินตัวเองหดตัวมากกว่าตลาดที่ 46.6% หรือมียอดขาย 6.28 หมื่นคันเท่านั้น

งานนี้ค่ายฮอนด้าเองที่ประกาศว่ายอดจำหน่ายตัวเองจะลดลงต่ำกว่า 1 แสนคันเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษ ไปเหลือที่ 9.5 หมื่นคันหรือหดตัว 25% ตามการนับตัวเลขของฮอนด้าที่พวกเขาไม่มีรถเชิงพาณิชย์ โดยตัวความหวังอย่าง Honda City นั้นดูโดดเด่นและเป็นความหวังของหมู่บ้านในช่วงเวลาที่เหลือของปีเพื่อให้ทำได้ตามเป้าหมาย

ยังมีสินค้าใหม่ให้ลุ้นยอดขายกันไตรมาส 4

แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดทั้งหมดออกมาแต่อย่างใด แต่ดูเหมือนว่าไตรมาส 3 ของปีนี้ จะไม่มีการเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ ๆ ที่เป็นที่นิยมมาก ๆ ออกมา ด้วยเหตุผลหลายอย่าง หนึ่ง ยังไม่ถึงช่วงเวลาที่จำเป็นจะต้องเปิดตัวจริง ๆ สอง สถานการณ์ยังไม่เอื้ออำนวยให้เปิดตัวสินค้าใหม่ และประเด็นสุดท้าย ทุกค่ายต่างก็ต้องการเวลาจัดการปัญหาสต๊อกสินค้าของตัวเองกันบ้าง

ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรอีก รถยนต์ที่ยืนยันมาแล้วว่าจะเปิดตัวอย่างแน่นอนก็คือ Mitsubishi Outlander PHEV รถเอสยูวีพลังงานปลั๊กอินไฮบริดจากค่ายมิตซูบิชิ ที่ทั้งวิ่งทดสอบและเตรียมการประกอบมานานโข แต่ก็คงคาดหวังยอดขายมากระตุ้นตลาดเป็นกอบเป็นกำไม่ได้ และหวังว่าจะโดนโรคเลื่อนจาก 'ปีงบประมาณ' ที่ลากยาวไปถึงมีนาคมปีหน้าได้

สองค่ายยักษ์ใหญ่อย่างโตโยต้าและฮอนด้า ก็มีข่าวลือเรื่องการเปิดตัวสินค้าใหม่เหมือนกัน และพวกเขาก็ยืนยันจนถึงบัดนี้ ว่ารถยนต์รุ่นใหม่จะลงตลาดตามเวลาที่กำหนด ซึ่งตามที่เราเข้าใจก็คือในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ เราน่าจะได้เห็น Honda City Hatchback และ Toyota Yaris ATIV รุ่นปรับโฉม มาเปิดตัวแข่งกันให้ตลาดคึกคักเพิ่มยอดขายในมอเตอร์ เอ็กซ์โป อย่างแน่นอน

การแข่งขันที่รุนแรงด้วยเงื่อนไขที่ดุเดือดขึ้น

สิ่งที่ค่ายรถทุกค่ายมักจะพูดเสมอเวลาที่เราถามถึงสถานการณ์ในช่วงครึ่งปีหลังก็คือ 'แม้ทุกอย่างจะดูดีขึ้น แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจน' และตราบใดที่สถานการณ์ยังไม่นิ่ง ก็หมายความว่าค่ายรถเองก็ยังสามารถปรับเปลี่ยนแผนงานของพวกเขาได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการทำกิจกรรมทางการตลาดต่าง ๆ หรือแม้แต่การเปิดตัวรถใหม่ที่วางแผนกันมา ก็อาจจะสามารถเปลี่ยนแปลงได้เช่นกัน

สิ่งที่พอจะสร้างความหวังให้กับตลาดรถยนต์นั่งได้บ้างก็คงจะเป็นการหดตัวที่ลดลงในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งแม้จะไม่มาก แต่ก็พอจะจุดไฟให้ได้ว่า ยังมีกลุ่มลูกค้าที่ต้องการรถยนต์นั่งอยู่อย่างแน่นอน เพียงแต่การเข้าไปจับกลุ่มลูกค้าเหล่านี้ อาจจะต้องมีความชัดเจนมากขึ้น ความต้องการของลูกค้าแม้จะเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ของตลาด แต่ก็เชื่อว่าเป็นเรื่องที่ไม่ยากเย็นเกินไปนัก

หากแยกสถานการณ์ที่สามารถควบคุมได้ออกจากสถานการณ์ที่ควบคุมไม่ได้ ก็มั่นใจว่าค่ายรถเองพร้อมเดินหน้ากันอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวสินค้าใหม่ การเตรียมความพร้อมของศูนย์บริการ หรือแม้แต่การจัดแคมเปญโปรโมชั่นเพื่อสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ แม้หลาย ๆ คนอาจจะมองว่าเป็นช่วงเวลาไม่เหมาะสม แต่บอกเลยว่าตลาดรถยนต์ไทยนั้น ขับเคลื่อนด้วยแคมเปญโปรโมชั่นอยู่แล้ว

ปัจจัยภายนอกที่ต้องจับตาเป็นอย่างมากก็คือเรื่องของสถานการณ์ COVID-19 เอง ที่แม้ประเทศไทยจะควบคุมได้เป็นอย่างดี แต่ในตลาดโลกก็ยังทวีความรุนแรงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของหนี้เสียที่มีแนวโน้มพุ่งขึ้นสูง ทำให้ความตึงเครียดของผู้ประกอบการธุรกิจการเงินจะทวีเพิ่มขึ้นไปด้วย และแน่นอนว่าส่งผลกระทบต่ออัตราการปล่อยสินเชื่อที่จะลดลงเช่นกันในช่วงที่เหลือของปี

ตลาดรถยนต์นั่งในปีนี้ กลายเป็นตลาดที่มีความชัดเจนมากขึ้น รถยนต์กลุ่มที่มีความคุ้มค่า ตอบสนองกับผู้คนในช่วงโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มลูกค้าแมสหรือเฉพาะกลุ่ม ก็จะมียอดขายที่หดตัวน้อยกว่าตลาด แต่กลุ่มที่กว้านจับลูกค้าแบบทั่วไป ก็คงเหนื่อยแน่นอนล่ะในปีนี้

แม้จะเป็นปีที่เหนื่อย แต่ก็หวังว่าจะได้เห็นการดิ้นรนที่สนุกสนานจากค่ายรถทุกรายนะ

 

    Channel:
ติดตามพวกเราได้ที่:
Pisan

หัวหน้าทีมบรรณาธิการ

Head of Content ของ AutoFun Thailand ผู้ใช้ชีวิตกับรถมาตั้งแต่สมัยใส่ขาสั้นไปโรงเรียน ทุกวันนี้รถติดบนถนนมากกว่าวันละ 2-3 ชั่...

พร้อมจัดการซื้อ-ขายรถได้ภายใน 24 ชั่วโมง

ผู้ใช้ แลกรถในฝันแล้ว
เพิ่มรถของคุณ

แลก

Toyota Yaris Ativ

ขายรถมือสอง

ตรวจสภาพรถ 175 จุด

รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน

การรับประกัน 1 ปี

ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง

ดูเพิ่มเติม

วีดีโอสั้นที่เกี่ยวข้อง

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

2022 Toyota Yaris ATIV ให้มาครบ จบในคันเดียว ทั้งประหยัดและปลอดภัย | AutoFun

พาน้องมาชม 3 อีโคคาร์อย่าง Yaris ATIV/Almera/City อยากรู้ว่า First Jobber คิดยังไง | AutoFun

ลองขับ 2022 Toyota Yaris Ativ 0-100 อืดไปหน่อย แต่ช่วงล่างดี เก็บเสียงเยี่ยม

พาชม 2022 All New Toyota Yaris Ativ เครื่องเดิม แต่เพิ่มเติมออพชั่นแบบจัดเต็ม

รีวิว 2023 Honda City ใส่ของเล่นเพิ่ม เน้นเป็นเจ้าของง่าย ขอบอก SV น่าสนทั้ง 2 เครื่องยนต์ | AutoFun

รีวิว 2023 Honda City เติมหล่อ เพิ่มปลอดภัย สู้ศึกรถเล็กกับ Toyota Yaris Ativ | AutoFun

พาน้องมาชม 3 อีโคคาร์อย่าง Yaris ATIV/Almera/City อยากรู้ว่า First Jobber คิดยังไง | AutoFun

แนะนำ 3 รถ Eco cars ยอดนิยมสำหรับเด็กจบใหม่ ที่ขับดี ประหยัดและคุ้มค่าคุ้มราคา สภาพสวย

เช็คระยะ Honda ใช้เงินเท่าไหร่ (City 1.0 Turbo RS)

ไปลอง 2023 Honda Civic Type R เกียร์ธรรมดาขับง่าย มันน่าเสียดายที่ไม่มีให้ซื้อแล้วนี่สิ... | AutoFun

ลองขับ 2023 MG ZS EV ตอบทุกโจทย์ที่เราคาดหวัง นี่คือตัวรันวงการ EV คุ้มครบในงบเบา ๆ | Autofun

พรีวิว 2022 MG ZS EV ปรับมาน่าใช้มาก วิ่งไกล 400 กิโลเมตร แรงขึ้น 177 แรงม้า แต่แรงบิดลดนะ | AutoFun

ข่าวล่าสุด

Mitsubishi ลงทุนผลิตเครื่อง 4N16 Hyper Power ใหม่ ให้ใช้งานได้เกิน 400,000 กม.ขึ้นไป

การผลิตเครื่องยนต์ใหม่ 2.4 ลิตร ไฮเปอร์ พาวเวอร์ รุ่นใหม่ ถึงขั้นต้องปรับปรุงโรงงานขนานใหญ่ ให้เป็นไปตามมาตรฐานญี่ปุ่น ซึ่งจะทำให้การประกอบเครื่องยนต์มีความสมบูรณ์แบบมากที่สุด พร้อมเผยเคล็ดลับความทนทานของเครื่อง 4n16 ใหม่ในรถ 2023 Mitsubishi Triton (มิตซูบิชิ ไทรทัน) โฉมล่าสุด เปลี่ยนสายพานการผลิตเครื่องยนต์ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยกระดับสายการผลิตให้ all-new Triton ต้อนรับการมาของรถรุ่นใหม่ และเครื่องยนต์ใหม่ 2.4 ลิตร ไฮเปอร์ พาวเวอร์ โดยใช้หุ่นยนต์อันทันสมัยมากกว่า 250 ตัว ทำหน้าที่ในการ

Mercedes-Benz เตรียมใช้แบตเตอรี่ Blade ของ BYD ในรถอีวี

Mercedes-Benz (เมอร์เซเดส-เบนซ์) ตกเป็นข่าวว่าเตรียมหยิบยืมเทคโนโลยี Blade Battery ของ BYD มาใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าของตนเอง สำนักข่าว CBEA ของจีนรายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า รถยนต์รุ่นแรกของ Mercedes-Benz ที่จะใช้แบตเตอรี่ของ BYD คือ All-New CLA รุ่นใหม่ที่สร้างบนแพลตฟอร์ม 800V MMA แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเป็นเวอร์ชั่นที่จำหน่ายในจีนเท่านั้นหรือในต่างประเทศด้วย ข่าวดังกล่าวแพร่สะพัดตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา สำนักข่าว CBEA รายงานด้วยว่าค่ายรถยักษ์เยอรมันจะเริ่มต้นการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ใ

ส่อง MG ZS 7 คัน มือสองดาวน์น้อย ผ่อนสบาย จากทาง CARSOME

วันนี้ เราเอาใจคนรักครอบครัวที่กำลังหาซื้อรถมือสอง ด้วย MG ZS มือสอง คุณภาพเยี่ยมถึง 7 คันพร้อมโปรโมชันสุดปังอย่าง CARSOME Easy Sale ดาวน์น้อย ผ่อนง่าย จ่ายไหว ที่ให้ทุกคนผ่อนรถมือสองได้ง่ายๆ เริ่มต้นเพียง 4,xxx บาทต่อเดือน แถมยังมียอดดาวน์น้อย จ่ายได้สบายกระเป๋า แถมมีสิทธิ์เป็นผู้โชคดี ได้เงินคืนรวม 5 แสนบาท*** พร้อมความคุ้มค่าแบบจุกๆ อีกเพียบ ที่สำคัญ ยังมั่นใจได้ว่า รถมือสองทุกคันจาก แพลตฟอร์มซื้อ-ขายรถยนต์มือสองออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่าง CARSOME ยัง ผ่านการตรวจเช็กอย่

Honda ยืนยันร่วมใช้เทคโนโลยีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla

Honda (ฮอนด้า) เป็นบริษัทรถยนต์รายล่าสุดต่อจาก Ford และ General Motors ที่จะใช้เทคโนโลยีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla สำนักข่าว Asahi ของประเทศญี่ปุ่นรายงานว่า Honda ประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะใช้พอร์ทชาร์จไฟเร็วของ Tesla ในรถยนต์ไฟฟ้าที่จะออกจำหน่ายในภูมิภาคอเมริกาเหนือตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป ก่อนหน้านี้ Ford และ General Motors ประกาศนโยบายคล้ายคลึงกันหลังบรรลุข้อตกลงกับ Tesla ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ขณะที่ Rivian อีกหนึ่งบริษัทรถยนต์สัญชาติอเมริกันก็จะเดินตามรอยด้วยเช่นกัน นักวิเคราะห์เ

วิศวกร Honda พัฒนาระบบป้องกันเมาหัวในรถยนต์ไฟฟ้าที่มีอัตราเร่งทันใจ

ทีมงานฝ่ายวิศวกรรมของ Honda (ฮอนด้า) พัฒนาระบบควบคุมอัตราเร่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการเวียนหัวหรือเมารถ เป็นที่ทราบกันดีว่าอัตราเร่งของรถยนต์ไฟฟ้าที่มีแรงบิดให้ใช้แบบทันทีทันใดนั้นตอบสนองต่อเท้าขวาของผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี แต่อาจจะไม่ถูกใจผู้โดยสารที่นั่งอยู่บนเบาะหน้าข้างคนขับหรือเบาะหลังเท่าใดนัก ธรรมชาติของรถยนต์ไฟฟ้านั้นทำงานด้วยความเงียบสงบ ราบรื่น ปราศจากเสียงเครื่องยนต์รบกวน แต่อัตราเร่งที่เกิดขึ้นแบบกระทันหันอาจส่งผลต่อประสาทรับรู้การเคลื่อนไหวของหูชั้นในที่ทำงานไม่ประส

รถแนะนำสำหรับคุณ

ยอดนิยมล่าสุดอัพเดท
ฮิต
MG

MG ZS

THB 689,000 - 799,000

ชมรุ่นรถ
MG

MG Maxus 9

THB 2,499,000 - 2,699,000

ชมรุ่นรถ
MG

MG ES

THB 959,000

ชมรุ่นรถ
Honda

Honda WR-V

THB 799,000 - 869,000

ชมรุ่นรถ
รุ่นใหม่
BMW

BMW X7

THB 5,999,000 - 8,959,000

ชมรุ่นรถ
BMW

BMW XM

THB 14,899,000

ชมรุ่นรถ
GAC

GAC Aion Y Plus

THB 1,069,900 - 1,299,900

ชมรุ่นรถ
Toyota

Toyota Vellfire

THB 4,129,000

ชมรุ่นรถ
Subaru

Subaru Levorg

THB 1,890,000

ชมรุ่นรถ
Mercedes-Benz

Mercedes-Benz Sprinter

THB 3,790,000

ชมรุ่นรถ

เปรียบเทียบรถที่เกี่ยวข้อง

Toyota Yaris Ativ
เช็คทันที