รู้จักหลัก “แอโรไดนามิกส์” ส่งผลต่อรถคุณอย่างไรและรถรุ่นไหนลู่ลมที่สุดในโลก?

คำอธิบายง่าย ๆ ของหลักอากาศพลศาสตร์หรือ Aerodynamics ก็คือการศึกษาการไหลเวียนอากาศผ่านวัตถุสิ่งของ ศาสตร์แขนงนี้เริ่มต้นถูกคิดค้นขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 และมีพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง

การศึกษาหลักอากาศพลศาสตร์มีความสำคัญอย่างยิ่งในยุคอุตสาหกรรม เพราะนำไปสู่การสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ มากมาย ตั้งแต่การลอยตัวของเครื่องบิน การเพิ่มประสิทธิภาพรถแข่งไปจนถึงการยกระดับสมรรถนะของรถยนต์โปรดักชั่นทั่วไป

เมื่อขับขี่ด้วยความเร็วต่ำ หลักแอโรไดนามิกส์อาจไม่ส่งผลมากนัก แต่ถ้าเร่งความเร็วสูงขึ้น แรงกระทำตามหลักอากาศพลศาสตร์จะปรากฎชัดเจนและส่งผลต่อการเคลื่อนที่ของตัวรถ

น้ำหนักกด แรงยก แรงต้าน และแรงขับ

การเคลื่อนที่ของตัวรถเป็นไปตามหลักฟิสิกส์เบื้องต้น นั่นคือมีแรงกระทำทั้งหมด 4 แรง คือน้ำหนัก (weight) แรงยก (lift) แรงต้าน (drag) และแรงขับไปข้างหน้า (Thrust)

ภาพที่เรานำมาประกอบด้านบนนี้เผยให้เห็นแรงกระทำทั้ง 4 ที่มีต่อตัวรถ ซึ่งสามารถเข้าใจได้ทันทีว่าแรงยกกับแรงต้านนั้นไม่เป็นผลดีกับตัวรถ ขณะที่น้ำหนักที่กดบนตัวรถและแรงขับไปข้างหน้าจะช่วยให้ตัวรถพุ่งทะยานไปได้อย่างรวดเร็วและมั่นคง

บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ทุกรายจึงต้องการลดแรงต้านและแรงยกที่กระทำต่อตัวรถ ซึ่งไม่เพียงจะช่วยให้ทำความเร็วได้สูงขึ้น แต่ยังช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงอีกด้วย

การศึกษาหลักแอโรไดนามิกส์ทำให้บรรดารถแข่งสมรรถนะสูงทั้งหลายมีด้านหน้าที่เตี้ยและมีรูปทรงคล้ายลิ่ม พร้อมกับมีสปอยเลอร์ขนาดใหญ่ที่บั้นท้าย เนื่องจากต้องแหวกอากาศพร้อมกับสร้างน้ำหนักกดบนตัวรถไปพร้อมกัน

ความหมายของค่า Cd หรือ Drag Coefficient

การประเมินอากาศพลศาสตร์ของรถยนต์ทั่วไปที่ออกจำหน่ายในท้องตลาดถูกวัดด้วยมาตรฐานค่าแรงเสียดทานอากาศ Drag Coefficient หรือ Cd ตัวเลขที่ได้นั้นยิ่งน้อยยิ่งดี เพราะแสดงให้เห็นว่ารูปทรงตัวรถมีประสิทธิภาพในการลดแรงต้านอากาศได้มากเพียงใดในขณะที่ตัวรถเคลื่อนที่ไปข้างหน้า

การคำนวณค่า Cd มีสูตรสำเร็จอยู่แล้วนั่นคือ Fd = cd 1/2 ρ v2 A แต่เราจะข้ามชุดสูตรอันน่าสับสนนี้ไปแล้วไปดูค่าแรงเสียดทานอากาศเฉลี่ยของรถยนต์แต่ละประเภทกัน

รถยนต์นั่ง: 0.22 – 0.40 Cd

รถสปอร์ต: 0.28 – 0.40 Cd

รถเอ็มพีวี: 0.35 – 0.50 Cd

รถบัส: 0.40 – 0.80 Cd

ข้อสังเกตก็คือ รถสปอร์ตมีค่า Cd สูงกว่ารถยนต์นั่ง นั่นเป็นเพราะค่ายผู้ผลิตรถสปอร์ตต้องรักษาสมดุลระหว่างแรงต้าน แรงยก และแรงกดลงบนตัวถังเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูงมาก ซึ่งส่งผลต่อค่าแรงเสียดทานอากาศในภาพรวม

ในทางกลับกัน รถยนต์นั่ง โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า รถไฮบริดหรือปลั๊กอินไฮบริดสามารถมุ่งสู่เป้าหมายการลดค่าแรงเสียดทานอากาศได้อย่างเต็มที่เนื่องจากไม่ใช่ยานพาหนะที่จะต้องทำความเร็วสูงมากอยู่แล้ว ค่า Cd จึงน้อยกว่ารถสปอร์ต

 

แล้วรถยนต์รุ่นไหนมีค่า Cd ต่ำที่สุดในปัจจุบัน

2019 Mercedes-Benz A-Class (เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอ-คลาส) คว้าแชมป์รถยนต์ที่มีความลู่ลมมากที่สุดในโลกด้วยตัวเลขเพียง 0.22 Cd เดินตามความสำเร็จของรุ่น 2013 Mercedes-Benz CLA (เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซีแอลเอ) ที่ทำตัวเลขได้เท่ากัน อันเป็นผลมาจากการพัฒนาอย่างยาวนานในอุโมงค์ลม ทำให้มีการออกแบบด้านหน้าที่มีขนาดและองศาพอเหมาะ

2017 BMW 5-Series (บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5) ตัวถัง G30 ก็เป็นหนึ่งในรถยนต์ซีดานที่มีความลู่ลมมากที่สุดหลังจากสามารถทำตัวเลขได้ที่ 0.22 Cd รถซีดานรุ่นนี้มาพร้อมกระจังหน้าไตคู่แบบเปิด-ปิดได้ และล้ออัลลอยที่ถูกออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อการแหวกอากาศอย่างดีเยี่ยม

สำหรับรถยนต์รุ่นอื่น ๆ ที่มีค่าแรงเสียดทานต่ำมากนั้น ยังรวมถึง Tesla Model 3 (เทสล่า โมเดล 3) มีตัวเลข 0.23 Cd รถซีดาน 2018 Audi A4 (ออดี้ เอ4) ทำได้ 0.23 Cd ขณะที่รถไฮบริดอย่าง Toyota Prius (โตโยต้า พริอุส) ก็มีตัวเลขที่ยอดเยี่ยมคือ Cd 0.24  

    Channel:
ติดตามพวกเราได้ที่:
May

นักเขียนอาวุโส

อดีตนักข่าว เอเจนซี่ และฟรีแลนซ์ฝีมือเยี่ยม ที่นำประสบการณ์ร่วม 20 ปีมาถ่ายทอดคอนเทนท์และประเด็นข่าวในวงการยานยนต์ทั้งไทยและเ...

ซื้อรถถูกกว่า ขายรถเร็วขึ้น

ผู้ใช้ แลกรถในฝันแล้ว
เพิ่มรถของคุณ

แลก

BMW 5 Series Sedan

ขายรถมือสอง

ตรวจสภาพรถ 175 จุด

รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน

การรับประกัน 1 ปี

ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง

ดูเพิ่มเติม

วีดีโอสั้นที่เกี่ยวข้อง

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

The New Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic ก้าวแรกสู่โลกของพรีเมี่ยมคอมแพ็คคาร์ ด้วยสมรรถนะสูงสุดในคลาส

ข่าวล่าสุด

Mitsubishi ลงทุนผลิตเครื่อง 4N16 Hyper Power ใหม่ ให้ใช้งานได้เกิน 400,000 กม.ขึ้นไป

การผลิตเครื่องยนต์ใหม่ 2.4 ลิตร ไฮเปอร์ พาวเวอร์ รุ่นใหม่ ถึงขั้นต้องปรับปรุงโรงงานขนานใหญ่ ให้เป็นไปตามมาตรฐานญี่ปุ่น ซึ่งจะทำให้การประกอบเครื่องยนต์มีความสมบูรณ์แบบมากที่สุด พร้อมเผยเคล็ดลับความทนทานของเครื่อง 4n16 ใหม่ในรถ 2023 Mitsubishi Triton (มิตซูบิชิ ไทรทัน) โฉมล่าสุด เปลี่ยนสายพานการผลิตเครื่องยนต์ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยกระดับสายการผลิตให้ all-new Triton ต้อนรับการมาของรถรุ่นใหม่ และเครื่องยนต์ใหม่ 2.4 ลิตร ไฮเปอร์ พาวเวอร์ โดยใช้หุ่นยนต์อันทันสมัยมากกว่า 250 ตัว ทำหน้าที่ในการ

Mercedes-Benz เตรียมใช้แบตเตอรี่ Blade ของ BYD ในรถอีวี

Mercedes-Benz (เมอร์เซเดส-เบนซ์) ตกเป็นข่าวว่าเตรียมหยิบยืมเทคโนโลยี Blade Battery ของ BYD มาใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าของตนเอง สำนักข่าว CBEA ของจีนรายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า รถยนต์รุ่นแรกของ Mercedes-Benz ที่จะใช้แบตเตอรี่ของ BYD คือ All-New CLA รุ่นใหม่ที่สร้างบนแพลตฟอร์ม 800V MMA แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเป็นเวอร์ชั่นที่จำหน่ายในจีนเท่านั้นหรือในต่างประเทศด้วย ข่าวดังกล่าวแพร่สะพัดตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา สำนักข่าว CBEA รายงานด้วยว่าค่ายรถยักษ์เยอรมันจะเริ่มต้นการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ใ

ส่อง MG ZS 7 คัน มือสองดาวน์น้อย ผ่อนสบาย จากทาง CARSOME

วันนี้ เราเอาใจคนรักครอบครัวที่กำลังหาซื้อรถมือสอง ด้วย MG ZS มือสอง คุณภาพเยี่ยมถึง 7 คันพร้อมโปรโมชันสุดปังอย่าง CARSOME Easy Sale ดาวน์น้อย ผ่อนง่าย จ่ายไหว ที่ให้ทุกคนผ่อนรถมือสองได้ง่ายๆ เริ่มต้นเพียง 4,xxx บาทต่อเดือน แถมยังมียอดดาวน์น้อย จ่ายได้สบายกระเป๋า แถมมีสิทธิ์เป็นผู้โชคดี ได้เงินคืนรวม 5 แสนบาท*** พร้อมความคุ้มค่าแบบจุกๆ อีกเพียบ ที่สำคัญ ยังมั่นใจได้ว่า รถมือสองทุกคันจาก แพลตฟอร์มซื้อ-ขายรถยนต์มือสองออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่าง CARSOME ยัง ผ่านการตรวจเช็กอย่

Honda ยืนยันร่วมใช้เทคโนโลยีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla

Honda (ฮอนด้า) เป็นบริษัทรถยนต์รายล่าสุดต่อจาก Ford และ General Motors ที่จะใช้เทคโนโลยีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla สำนักข่าว Asahi ของประเทศญี่ปุ่นรายงานว่า Honda ประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะใช้พอร์ทชาร์จไฟเร็วของ Tesla ในรถยนต์ไฟฟ้าที่จะออกจำหน่ายในภูมิภาคอเมริกาเหนือตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป ก่อนหน้านี้ Ford และ General Motors ประกาศนโยบายคล้ายคลึงกันหลังบรรลุข้อตกลงกับ Tesla ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ขณะที่ Rivian อีกหนึ่งบริษัทรถยนต์สัญชาติอเมริกันก็จะเดินตามรอยด้วยเช่นกัน นักวิเคราะห์เ

วิศวกร Honda พัฒนาระบบป้องกันเมาหัวในรถยนต์ไฟฟ้าที่มีอัตราเร่งทันใจ

ทีมงานฝ่ายวิศวกรรมของ Honda (ฮอนด้า) พัฒนาระบบควบคุมอัตราเร่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการเวียนหัวหรือเมารถ เป็นที่ทราบกันดีว่าอัตราเร่งของรถยนต์ไฟฟ้าที่มีแรงบิดให้ใช้แบบทันทีทันใดนั้นตอบสนองต่อเท้าขวาของผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี แต่อาจจะไม่ถูกใจผู้โดยสารที่นั่งอยู่บนเบาะหน้าข้างคนขับหรือเบาะหลังเท่าใดนัก ธรรมชาติของรถยนต์ไฟฟ้านั้นทำงานด้วยความเงียบสงบ ราบรื่น ปราศจากเสียงเครื่องยนต์รบกวน แต่อัตราเร่งที่เกิดขึ้นแบบกระทันหันอาจส่งผลต่อประสาทรับรู้การเคลื่อนไหวของหูชั้นในที่ทำงานไม่ประส

รถแนะนำสำหรับคุณ

ยอดนิยมล่าสุดอัพเดท
ฮิต
MG

MG ZS

THB 689,000 - 799,000

ชมรุ่นรถ
MG

MG Maxus 9

THB 2,499,000 - 2,699,000

ชมรุ่นรถ
MG

MG ES

THB 959,000

ชมรุ่นรถ
Honda

Honda WR-V

THB 799,000 - 869,000

ชมรุ่นรถ
รุ่นใหม่
BMW

BMW X7

THB 5,999,000 - 8,959,000

ชมรุ่นรถ
BMW

BMW XM

THB 14,899,000

ชมรุ่นรถ
GAC

GAC Aion Y Plus

THB 1,069,900 - 1,299,900

ชมรุ่นรถ
Toyota

Toyota Vellfire

THB 4,129,000

ชมรุ่นรถ
Subaru

Subaru Levorg

THB 1,890,000

ชมรุ่นรถ
Mercedes-Benz

Mercedes-Benz Sprinter

THB 3,790,000

ชมรุ่นรถ

เปรียบเทียบรถที่เกี่ยวข้อง

BMW 5 Series Sedan
เช็คทันที