อยากเป็นเจ้าของ Luxury Business Sedan อย่าง BMW, Mercedes Benz, Volvo ต้องผ่อนเดือนละเท่าไรนะ

ในงบ 3 ล้านบาท หากใครอยากจะขยับไปลองเล่นในกลุ่มของ Luxury Business Sedan หรือซีดานหรูสำหรับเหล่าผู้บริหาร แต่ยังไม่มั่นใจว่าจะซื้อคันไหนดี หรือจะต้องผ่อนเดือนละเท่าไร

เราได้รวบรวมตารางผ่อนของรุ่นใหม่ล่าสุดของรถหรูขนาดกลางมาให้ตัดสินใจกัน

2021 BMW 530e Elite ราคา 2,999,000 บาท

บีเอ็มดับเบิลยู 530อี อีลิท เจเนอเรชั่นที่ 7 โฉมไมเนอร์เชนจ์ เปิดตัวแล้วในไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะผู้ชนะยอดขายระดับพรีเมียมในไทย ด้วยราคาเดิม เพิ่มออพชั่นใหม่ รุ่นนี้ดูจะคุ้มสุดด้วยเครื่องยนต์ไฮบริด

เครื่องยนต์

ในรุ่นปลั๊กอินไฮบริด เครื่องเบนซินกับมอเตอร์ไฟฟ้าทำงานร่วมกัน กำลังสูงสุด 292 แรงม้า และแรงบิด 420 นิวตันเมตร พร้อมระบบ XtraBoost ซึ่งปลดปล่อยพละกำลังเสริมมากถึง 40 แรงม้า ภายในเวลาเพียง 10 วินาที

เมื่อขับขี่ในโหมด SPORT สถิติ 0-100 กม./ชม. ภายใน 5.9 วินาที ทำความเร็วสูงสุดที่ 235 กม./ชม. ขับขี่ด้วยไฟฟ้าล้วน ทำได้ระยะทาง 52 กิโลเมตร

โปรโมชั่น

2,999,000 บาทรวมกับ BSI Standard แพคเกจ 

• การบริการบำรุงรักษา 3 ปี หรือ 60,000 กม. 

• และการรับประกัน 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

BMW ต้องดาวน์ 35% ระยะเวลา 60 เดือน และมียอดบอลลูน งวดสุดท้าย(งวดที่ 61)  35% ของราคารถ เมื่อคำนวนออกมาแล้วจะได้เป็น

Mercedes-Benz E 300 e Avantgarde ในราคา 3,190,000 บาท

เมอเซเดส-เบนซ์ อี 300 อี อวานท์การ์ด ก็ยังเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งเรื่องชื่อเสียงความหรูในใจคนไทย ที่ค่อนข้างจะน้อยเมื่อเทียบกับคันอื่น ๆ

โดยขาดระบบไฟหน้าเลี้ยวตามได้ ไม่มีฝาท้ายไฟฟ้า ไม่มีระบบรักษาระยะห่างจากคันหน้า ไม่มีระบบเตือนจุดบอดข้าง

เครื่องยนต์

ขุมพลังแบบปลั๊กอินไฮบริด เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตรเทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์ เมื่อทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า

จะมีกำลังสูงสุด 320 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 700 นิวตัน-เมตร กับเกียร์อัตโนมัติ 9G-Tronic ขับเคลื่อนล้อหลัง

โดยวิธีการผ่อนที่เราแนะนำให้เลือกใช้คือการเช่าซื้อแบบธรรมดา จะได้ไม่ต้องเก็บค่าบอลลูนภายหลัง

Volvo S90 T8 ราคา 3,290,000 บาท

วอลโว่ เอส90 ซีดานระดับกลางจากสวีเดน ได้รุ่นเครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริด ที8 ที่เปิดตัวโฉมไมเนอร์เชนจ์ไปแล้วเมื่อปลายปี มีการปรับรูปโฉมให้ต่างจากเดิมเล็กน้อย

ด้วยกระจังหน้าลายใหม่แบบตาข่ายกับลายไฟท้ายเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย พร้อมปรับราคาลงมาเหลือ 3,290,000 ล้านบาท จากเดิม 3,790,000 บาท

เครื่องยนต์

ใช้เครื่องยนต์ไดร์ฟ-อี ปลั๊กอินไฮบริด ทวินเอนจิน ขับเคลื่อน 4 ล้อ กำลังสูงสุด 407 แรงม้า แรงบิด ุ640 นิวตันเมตร สามารถวิ่งได้ด้วยระบบไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวมากกว่า 40 กิโลเมตร

มาพร้อมกับ Volvo Warranty

• บริการประกันคุณภาพ 3 ปี หรือ 100,000 กม. 
• บริการให้ความช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง นาน 1 ปี

หากดูแล้ว BMW (บีเอ็มดับเบิ้ลยู) จะมีความใหม่ และราคาที่ถูกที่สุด พร้อมออพชั่นไฮเทค Mercedes Benz (เมอร์เซเดส เบนซ์) จะอยู่กึ่งกลาง แต่ออพชั่นอาจจะขาดหายเล็กน้อย และสำหรับ Volvo (วอลโว่) ที่ราคาแพงที่สุด แต่ก้ได้ความแรงจากเครื่องยนต์มาเช่นกัน

โดยทั้ง 3 คันมาในรูปแบบของ Plug-in Hybrid ประหยัดรักษ์โลก ปล่อยมลพิษน้อย หากใครสนใจรีวิวตัวเต็มของทุกคัน ตามอ่านกันได้ที่นี่เลย