10 อันดับรถที่มีรูปทรงดูแรงกว่าความเป็นจริง หน้าตาซิ่งแต่เร่งไม่ออก มีหลายรุ่นขายในไทยด้วย

รถยนต์ที่ดูแรงกว่าความเป็นจริงในการจัดอันดับครั้งนี้ ตัดสินจากความคิดเห็นของทีมงานเท่านั้น ซึ่งพิจารณาจากการออกแบบรูปทรงที่แตกต่างจากรถ 2 ประตูทรงเก๋งบ้าน ๆ (เช่น Civic Coupe, E30 Coupe) เลือกรุ่นที่มีหน้าตาใกล้เคียงรถสปอร์ตมาก แต่ยังใช้เครื่องแค่ไม่กี่ร้อยแรงม้า ซึ่งแต่ละรุ่นในที่นี่ก็มีเหตุผลแตกต่างกันออกไป โดยจัดอันดับแบบไม่ได้เรียงตามความแรงมากน้อยได้ดังนี้ 

1. Toyota GT86/Subaru BRZ

Toyota GT 86 และ Subaru BRZ น้องชายฝาแฝด เปิดในปี 2012 รถทั้ง 2 รุ่นได้รับความสนใจจากแฟน ๆ ที่สนใจความเร็วในทันที เนื่องจากรูปทรงเพรียวบางลู่ลม น้ำหนักเบา และการควบคุมรถ แต่กลับมีสเปคทางเทคนิคของ GT 86/BRZ เป็นพื้นฐานเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 4 สูบไร้ระบบอัดอากาศ ซึ่งส่งกำลังไปยังล้อหลังผ่านกระปุกเกียร์ธรรมดา 6 สปีดที่มีอัตราส่วนใกล้เคียงกัน ด้วยกำลัง 200 แรงม้า ไม่ได้ฟังดูทรงพลังเท่ากับคู่แข่งบางราย ด้วยอัตราเร่ง 0-96 กม./ชม.ภายใน 8 วินาที จึงไม่เร็วสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการขับรถ หลายคนผิดหวัง ซึ่งทำให้ยอดขายตกต่ำ

2. Pontiac Fiero

รถปอนเตี๊ยกฟิเอโรเป็นการผลิตแบบอเมริกันที่ทันสมัยที่สุดตามมาตรฐานของวัน ลูกค้าต่างประทับใจกับรูปลักษณ์ของ Fiero ด้วยการออกแบบที่เท่และทันสมัย มีสัดส่วนแบบรถวางกลางขับหลัง นับเป็นความกล้าสำหรับ Pontiac ที่จะแนะนำรถขับเคลื่อนล้อหลังขนาดกะทัดรัดที่มีเครื่องยนต์อยู่ด้านหลังคนขับ แต่แล้วพวกเขาก็จับคู่กับกระปุกเกียร์ธรรมดา 5 สปีด อย่างไรก็ตาม ปัญหาหลักประการหนึ่งของ Fiero คือมันอืดเกินไป ด้วยกำลังเพียง 93 แรงม้า และอัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. ภายในเวลามากกว่า 10 วินาที นับว่ามันช้าอย่างไม่น่าให้อภัย

3. Ferrari Mondial

Ferrari Mondial (เฟอร์รารี มอนไดอัล) เปิดตัวในปี 1980 ในฐานะผู้สืบทอดต่อ 308 GT4 แม้ว่า Mondial จะใช้งานได้จริงมากกว่าและค่อนข้างถูกกว่ารุ่นเดิม แต่ก็ไม่ได้รับความนิยมเป็นพิเศษ นับเป็นโมเดลที่หายากจากเฟอร์รารีเพราะยอดขายน้อย นับจนถึงการผลิตสิ้นสุดลงในปี 1993 มีรถ Mondials เกือบ 5,000 คัน รถยนต์ส่วนใหญ่ใช้เครื่องยนต์ V8 3.2 ลิตร 214 แรงม้า และอัตราเร่ง 0-96 กม./ชม.ภายใน 8.2 วินาที ซึ่งดูหน่อมแน้มมากสำหรับเฟอร์รารี แบรนด์ที่ผลิตรถที่แรงสุดในโลกในยุคเดียวกัน

4. Honda CR-Z

Honda CR-Z (ฮอนด้า ซีอาร์-แซด) เปิดตัวในปี 2010 เป็นรถคูเป้ไฮบริดขนาดกะทัดรัดที่เป็นนวัตกรรมใหม่ มีรูปทรงที่ดูเหมือนผู้สืบทอดของ CRX ในตำนาน สัดส่วนแบบหน้านิ่มไทยลาด 3 ประตู น่าเสียดายที่เครื่องยนต์ 1.5 ลิตรสูบได้เพียง 130 แรงม้าเท่านั้น แม้มีระบบไฮบริดแล้ว CRZ ก็ยังช้าและไม่จัดจ้านอย่างที่รถยนต์ไฟฟ้าควรจะเป็น ทำให้แฟนๆ ต่างรู้สึกผิดหวังอย่างบอกไม่ถูก

5. Porsche 912

ย้อนกลับไปในช่วงปลายยุค 70 มีรถสปอร์ตที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางคือ Porsche 911 (ปอร์เช่ 911) เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถทั่วโลก ด้วยรูปทรงหน้าลิ่ม ท้ายลาดยาว มีสัดส่วนดูเร็วแรง แต่อันที่จริงแล้ว มันมีรุ่นเริ่มต้นที่มีแรงม้าน้อยจนน่าตกใจ

รถรุ่น 912 เปิดตัวในปี 1965 เป็นรถรุ่นย่อยพื้นฐานตัวล่างสุด มีตัวถังอย่างเดียวกับรุ่น 911 ในโฉม horn grille แบบรุ่นย่อยอื่น ๆ ในขณะที่รุ่นพี่วางเครื่อง 6 สูบนอนให้กำลังตั้งแต่ 130 - 300 แรงม้า แต่รุ่นย่อย 912 นี้กลับวางเครื่อง 4 สูบนอน ให้กำลัง 90 - 102 แรงม้าเท่านั้น ถ้าเห็นรูปทรงแค่ภายนอก หลายคนคงเดาไม่ออกว่ามันทำเวลาอัตราเร่ง 0-96 กม./ชม.ภายใน 11.5 วินาที นับว่ามีความอืดอย่างน่าตกใจ แต่รุ่นนี้มีความดีความชอบตรงที่เป็นจุดเริ่มต้นของรถสปอร์ตขนาดเล็กอย่าง Boxster และ Cayman ในปัจจุบัน

อ่านเพิ่มเติม : ชายคนนี้จับรถสุดคลาสสิค Porsche 914 มาแปลงเป็นรถไฟฟ้าด้วยเงินไม่ถึงครึ่งล้าน

6. Toyota Celica

Toyota Celica (โตโยต้า เซลิก้า) คือรถที่ทำตลาดมานานหลายทศวรรษ ในฐานะรถคูเป้ราคาไม่แพง ซึ่งสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มรถยนต์ทั่วไป ซึ่งหมายความว่าเซลิก้าดูแตกต่าง สปอร์ต และเร็ว แต่ยังคงสเปคทางเทคนิคเดียวกับ Camry หรือ Corolla จากรุ่นปีเดียวกัน ตัวอย่างเช่น Celica เจเนอเรชั่นสุดท้าย เป็นคูเป้ดูเฉียบคม ด้วยทรงลิ่มและท้ายโด่ง ที่บ่งบอกถึงประสิทธิภาพความลู่ลมที่ยอดเยี่ยม แต่ก็ไม่ได้ทำให้รถวิ่งเร็วตามคาด เพราะเครื่องยนต์ผลิตได้เพียง 180 แรงม้า กับอัตราเร่ง 0-96 กม./ชม.ภายใน 10 วินาที

7. Mazda RX-8

Mazda RX-8 เป็นรถที่น่าสนใจเมื่อเปิดตัว เพราะการเครื่องยนต์โรตารี่ และสัดส่วนแบบคูเป้ 4 ประตู 4 ที่นั่งที่ผิดปกติไปจากรถสปอร์ตทั่วไป อย่างไรก็ตาม แม้จะมีเครื่องยนต์โรตารี่มากถึง 280 แรงม้า แต่ก็ไม่ได้เร็วอย่างที่มาสด้าหวังไว้ เพราะเครื่องยนต์ไม่ได้ให้แรงบิดมากนัก กับน้ำหนักรถที่มาก ทำให้ออตัวไม่รุนแรงทันใจ กับอัตราเร่ง 0-96 กม./ชม.ภายใน 6.8 วินาที ซึ่งแฟนมาสด้ายังบอกว่าน่าผิดหวัง เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนที่ทำได้ 5.4 วินาที

8. Mercedes SLK 200

เมื่อคุณดูรูปทรง Mercedes-Benz SLK รถโรดสเตอร์ที่ดูเหมือนกับรุ่น SL ที่ใหญ่กว่าและทรงพลังกว่ามาก และมีธีมการออกแบบคล้ายกับซูเปอร์คาร์ SLR เล็กน้อย อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณเหยียบคันเร่ง มันไม่เหมือนกับรถสปอร์ตพันธุ์แท้พวกนั้น เพราะ SLK 200 มีเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.8 ลิตรให้กำลัง 185 แรงม้า ซึ่งไม่สามารถมอบประสิทธิภาพที่แท้จริงให้กับรถเปิดประทุนคันนี้ได้

9. Mazda Miata

โรดสเตอร์ขนาดเล็กมักตกเป็นผู้ร้ายในการจัดอันดับรถพลังอืดเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Mazda MX-5  Miata เพราะว่ารุ่นนี้เป็นรถที่เน้นความเรียบง่าย น้ำหนักเบา และให้ความสมดุล ซึ่งไม่ใช่สิ่งใหม่ มันมีมานานตั้งแต่สมัยยุค 50 จากรถเปิดประทุนอังกฤษ จากนั้นจึงเพิ่มวัสดุและการออกแบบที่ทันสมัย ​​และทำให้ทุกอย่างน่าเชื่อถือและคล่องตัว

เครื่องยนต์สี่สูบ 2.0 ลิตรและ 155 แรงม้า ไม่มีความเร็วแรงใด ๆ แค่เน้นความคล่องตัวในการขับขี่ ความหนึบ และความสมดุลที่สมบูรณ์แบบ ทำให้รถคันนี้มีความสุขในการลัดเลาะตามทางคดเคี้ยว มากกว่าการทำความเร็วที่สุดบนทางตรง

10. Hyundai Tiburon

ฮุนได ทิบูรอน เกิดมาเป็นรถคูเป้ราคาประหยัด มันเป็นรถที่ออกแบบดูดี ราคาไม่แพง และราคาน่าตื่นเต้น เหมาะที่จะเป็นเจ้าของ ซึ่งประสบความสำเร็จทำการตลาดเช่นนี้พอสมควร มาพร้อมเครื่องยนต์จากเครือมิตซูบิชิขนาด 2.0 ลิตร กำลัง 140 แรงม้า ซึ่งไม่ว่าคุณจะเลือกเกียร์ออโต้หรือเกียร์ธรรมดา การขับขี่นั้นไม่เร็วหรือให้อัตราเร่งแรงเป็นพิเศษ ตรงข้ามกับรูปทรงที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามอย่างยิ่ง

อ่านเพิ่มเติม : แนะนำให้รีบซื้อ Honda Civic coupe ก่อนราคามือสองจะทะลุ 3 แสนบาท

รถสปอร์ตที่ไม่แรงเหล่านี้ ถูกตั้งใจทำมาเพื่อจุดประสงค์อื่นนอกจากความเร็ว มีทั้งการทำให้รถสปอร์ตคล่องตัว ทำให้นั่งสบาย เน้นการขับสนุกในทางโค้ง หรือเน้นความสวยในราคาประหยัด ซึ่งยังมีอีกหลายรุ่น ที่ไม่ได้ถูกเอ่ยถึง เช่น Ford Capri, Nissan NX, Volvo 480 ฯลฯ

รถแบบนี้มีจุดขายตรงที่ ให้ความรู้สึกสนุกไปกับการครอบครองรถสปอร์ตในแง่มุมอื่น ๆ ซึ่งรถประเภทนี้หาซื้อได้ยากแล้วในปัจจุบัน ไม่แน่ว่าสักวันหนึ่ง เราอาจจะเห็นคุณค่าอย่างที่เราไม่เคยนึกถึงก็เป็นได้

อ่านเพิ่มเติม : มือสองต้องรู้ รวมรถคูเป้ต่ำกว่า 5 แสน Toyota Celica, Nissan NX ฯลฯ ที่คนสะสม มีเงินก็ซื้อไม่ได้