ถ้าพี่มีเงิน 2.7 ล้าน แต่ไม่อยากซื้อ 2021 Subaru Outback จะซื้อคันไหนดีนะ

ในงาน Bangkok International Motorshow 2021 ทางค่าย Subaru (ซูบารุ) ได้มีการนำ 2021 Subaru Outback (ซูบารุ เอาท์แบ็ค) เพื่อหวังเทียบกับรถยุโรป ซึ่งเป็นการนำเข้าจากญี่ปุ่นโดยตรง ทำให้เมื่อรวมภาษีแล้ว ทำให้รุ่นท้อป Outback 2.5i-T Eyesight มีราคาสูงถึง 2,699,000 บาท 

แต่ถ้าหากใครคิดว่าเงิน 2.7 ล้าน ไม่คุ้มกันที่จะซื้อคันนี้ จะไปเล่นคันไหนกันดี

ดู Subaru Outback กันก่อน

2021 ซูบารุ เอาท์แบ็ค รุ่นที่มาขาย เป็นตัวนำเข้าจากญี่ปุ่นโดยตรง ทำให้โดนภาษีนำเข้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อีกทั้งยังนำรุ่นท็อปสุด Outback 2.5i-T Eyesight มาขายเท่านั้น ใช้โครงสร้างเดียวกับ Subaru Legacy Wagon มีความสูงจากใต้ท้องรถ 213 มม. มากกว่ารถเอสยูวีบางรุ่นในระดับเดียวกัน

ภายใน

ระบบความบันเทิงได้จอสัมผัสแนวตั้งขนาด 11.6 นิ้วแบบ HD มีระบบนำทางในตัว ให้ออพชั่นเด่นคือเครื่องเสียง Harman Kardon® คู่กับลำโพง 11 จุด

ความปลอดภัยเต็ม

ระบบความปลอดภัยก่อนการชน Eyesight ะเตือนจุดบอดรอบคัน เตือนการชนพร้อมเบรกอัตโนมัติด้านหน้าแล้ว ระบบเบรคอัตโนมัติที่ด้านหลัง หากมีวัตถุมากีดขวาง หรือพุ่งตัดผ่านมา

เครื่องยนต์

เบนซินบอกเซอร์ ความจุ 2.5 ลิตร N/A ให้กำลัง 188 แรงม้า กับแรงบิด 245 นิวตันเมตร ขับเคลื่อน 4 ล้อถาวร ด้วยเกียร์ CVT ล็อคอัตราทดได้ 8 สปีด พร้อมแป้นแพดเดิ้ลชิฟต์

BMW X1

ราคานี้ซื้อ BMW X1 (บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์1) ตัวท้อป รถรุ่นเล็กสุดและมีราคาจำหน่ายรุ่นเริ่มต้นที่ไม่สูงเกินเอื้อม จึงขายดี

เครื่องยนต์ 2 ขนาด

รุ่นล่างมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ TwinPower Turbo ขนาด 1.5 ลิตร พละกำลัง 140 แรงม้าที่ 4,600 รอบ/นาที แรงบิด 220 นิวตันเมตรที่ 1,480 รอบ/นาที มีอัตราบริโภคน้ำมัน 16.4 กม.ต่อลิตร

ขณะที่รุ่นกลางและท้อป ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ TwinPower Turbo ขนาด 2.0 ลิตร พละกำลัง 190 แรงม้าที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิด 400 นิวตันเมตรที่ 1,750 รอบ/นาที บริโภคน้ำมันอยู่ที่ 19.2 กม.ต่อลิตร

มีถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่และการยึดเกาะถนน ระบบเบรกป้องกันล้อล็อกและควบคุมแรงดันเบรก เซ็นเซอร์ช่วยจอดหน้าและหลัง  ส่วนกล้องมองหลังมีเฉพาะในรุ่นกลางและรุ่นท็อป

Volvo XC40 Recharge 

หากใครอยากไปสายประหยัด เราเสนอ Volvo XC40 Recharge (วอลโว่ เอกซ์ซี40 รีชาร์จ) มาในแบบ PHEV หากยังไม่อยากได้แบบไฟฟ้า

เครื่องประหยัดแต่แรง

ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร เทอร์โบ มีพละกำลัง 180 แรงม้า แรงบิด 265 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 82 แรงม้า แรงบิด 160 นิวตันเมตร กำลังรวมสูงสุดอยู่ที่ 262 แรงม้า แรงบิด 425 นิวตันเมตร  

ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ Dual Clutch 7 สปีด ขับเคลื่อนล้อหน้า แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนมีขนาด 10.7 kWh ทำอัตราเร่ง 0-100 กม.ต่อชม. ได้ภายใน 7.3 วินาที และมีจำกัดความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 180 กม.ต่อชม.

มีระยะทางขับขี่ด้วยไฟฟ้าล้วน ๆ อยู่ที่ 45 กิโลเมตร. ปล่อยมลพิษคาร์บอนไดออกไซด์ 45 – 55 กรัมต่อกิโลเมตร และมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงสูงสุดประมาณ 50 กิโลเมตร/ลิตร

ขายความปลอดภัย

จุดขายของ Volvo คือระบบความปลอดภัย XC40 Recharge มาพร้อมกับ กล้องมองภาพขณะถอยจอดพร้อมเซ็นเซอร์หน้าหลัง, กล้องมองภาพรอบคัน, ระบบป้องกันรถวิ่งออกนอกเลน, ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง

ระบบช่วยขับขี่กึ่งอัตโนมัติ, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน, ระบบป้องกันการชนพร้อมเบรกอัตโนมัติ, ระบบป้องกันการชนโดยมีเซ็นเซอร์ตรวจจับรถยนต์, ผู้ใช้ทางเท้าและจักรยาน

นอกจากนี้ยังมีระบบตรวจจับมุมอับสายตา ระบบแจ้งเตือนการจราจรตัดขวางด้านหลัง ระบบแจ้งเตือนเว้นระยะห่างจากคันหน้า ระบบควบคุมการทรงตัวและป้องกันการโคลงของตัวรถ และระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ

Audi Q3

ในงบนี้ Audi Q3 (อาวดี้ คิว3) จะมีหลายรุ่นย่อยให้เลือก ได้ทั้งตัวถังธรรมดาและ Sportback ชุดแต่ง S Line

ได้เครื่องเล็ก

ถ้าเอาให้พอกับงบประมาณ จะได้เป็นเครื่องยนต์ เบนซิน 4 สูบขนาด 1.4 ลิตร เทอร์โบ 150 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร  quattro อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 9.3 วินาที จับคู่เกียร์ S tronic 6 จังหวะ

แต่จะไม่ได้ระบบควบคุมความเร็วคงที่ Cruise Control และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ

ความปลอดภัยน้อยไปหน่อย

ความปลอดภัยจะได้ถุงลม 6 ตำแหน่ง ABS, EBD, TCS, ESC, HDC เซนเซอร์หน้า-หลัง พร้อมกล้องด้านหลังขณะถอยจอด

Mercedes-Benz GLA 200 AMG Dynamic

ในราคาเพียง 2,399,000 บาทคุณจะได้ Mercedes-Benz GLA 200 AMG Dynamic (เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลเอ 200 เอเอ็มจี ไดนามิค) ประกอบในประเทศ 

เครื่องยนต์

เบนซิน 4 สูบแถวเรียงขนาด 1.3 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 163 แรงม้าที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตรที่ 1,620 – 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ Dual Clutch 7G-DCT 7 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า

ได้ระบบ Cruise Control, ระบบเตือนเพื่อนำรถเข้าศูนย์บริการ, ระบบเตือนแรงดันลมยาง, ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่, เซนเซอร์กะระยะช่วยจอด, ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ, ถุงลม 6 ตำแหน่ง, กล้องมองภาพขณะถอยจอด

Mazda CX-8

คู่แข่งจากแดนปลาดิบเขาก็มีกับ Mazda CX-8 (มาสด้า ซีเอกซ์-8) ที่แม้จะมีราคาแพง แต่ก็ยังขายดี มีรุ่นย่อยให้เลือก 4 รุ่นด้วยกัน

เครื่องยนต์แรงกว่า

เครื่องยนต์จะได้เป็นเครื่องดีเซล 4 สูบเทอร์โบ ขนาด 2.2 ลิตร 190 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตร อัตราบริโภคน้ำมัน 14.7 ลิตร ออพชั่นความปลอดภัยที่น่าสนใจคือ

ออพชั่นน่าสน

ซึ่งในรุ่นท้อป จะได้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ มี 6 ที่นั่ง ที่แถว 2 นั้นเป็นที่นั่งที่แยกจากกันเป็นอิสระ เพิ่มความหรูหราเหมาะกับผู้บริหารที่ต้องการ SUV

ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง, Lane Keep Assist, ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน ระบบเตือนเมื่อผู้ขับขี่เหนื่อยล้า

แล้วแต่ชอบเลยครับ

หากใครชอบคันไหน ก็เลือกกันได้ตามสบาย จริง ๆ Outback เหมาะจะเป็นรถที่ใช้ลุยป่าลุยเขามากที่สุด ด้วยความสูง และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ

แบรนด์หรูอื่น ๆ ที่ราคาใกล้เคียงกว่า ก็มักจะได้เครื่องที่แรงกว่าตามมา กับความสบายในการขับขี่

หรือใครมีครอบครัว ออกต่างจากหวัดบ่อย ก็ Mazda CX-8 ไปเลยครับ